อ่านหัวข้อก่อนหน้า :: อ่านหัวข้อถัดไป |
ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
ศิษย์ก้นกุฏิ

เข้าร่วม: 03 Jan 2007 ตอบ: 181 ที่อยู่: กรุงเทพ
|
ตอบเมื่อ: Fri Mar 09, 2007 4:15 pm เรื่อง: เพื่อความกระจ่าง |
|
|
โปรดอ่าน ก่อนจะถลำลึกและนำวิชาไปใช้อย่างผิดๆ
เนื่องด้วย ดวงจีน และ ฮวงจุ้ยเปิดสอน กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันเน้นหนักไปในเชิงธุรกิจและการตลาดมีผลประโยชน์เป็นตัวตั้ง ทุกคนต่างคาดหวังในวิชาเหล่านี้ว่าจะสามารถสร้างผลประโยชน์ให้กับตนเอง หรือ สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆให้กับการดำเนินชีวิตได้ ทุกคนต่างเรียนกันอย่างรวบรัด และ ก็รีบนำมาใช้ทั้งๆที่ยังไม่มีความเชี่ยวชาญ หรือ ตั้งตัวเป็นอาจารย์เสียเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายมากเหตุเพราะเราเองยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ดวงจีนจะใช้ตอนไหน และ ฮวงจุ้ยจะใช้เมื่อไหร่ เพื่อให้เกิดความกระจ่างชัดมากยิ่งขึ้น ขอเริ่มต้นด้วยการยกตัวอย่าง (จากเรื่องจริง)
มีสามีภรรยาคู่หนึ่งรักใคร่ปรองดองกันดี แต่มีเหตุจำเป็นที่ต้องย้ายบ้านยายถิ่นฐานไปอยู่ที่ออสเตเลีย หลังการย้ายไปอยู่ที่ออสเตเลียทั้งคู่ก็เริ่มมีปากเสียกัน ทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อย ชีวิตคู่เริ่มเปราะบางขึ้นเรื่อยๆทั้งคู่ต่างคิดว่าเป็นเพราะที่อยู่อาศัยไม่ดี เพราะก่อนย้ายมาก็รักกันดีไม่เคยมีปัญหา แต่หลังจากย้ายมาแล้วทำไมมีแต่ปัญหา มีปากเสียงกันบ่อย ด้วยความรู้สึกทุกข์ใจจึงได้โทรศัพท์มาเรียนเชิญอาจารย์ให้ไปดูฮวงจุ้ย ให้ไปไกลถึงออสเตเลียเลยนะครับ แถมยังออกค่าใช้จ่ายตลอดระยะการเดินทาง แต่สิ่งแรกที่อาจารย์ทำก็คือ เอาดวงของทั้งคู่มาดูก่อน หลังจากพิจารณาดวงเป็นเรียบร้อย จึงได้พบปัญหาอย่างหนึ่งว่า ปีจรไปชงที่ฐานคู่ครองของทั้งคู่ ซึ่งท่านที่ศึกษาดวงจีนจะรู้ว่าหมายถึงชีวิตคู่กำลังมีปัญหา ทะเลาะเบาะแว้งกันได้ง่าย เมื่ออาจารย์เห็นดังนี้จึงตอบกับไปว่า "ไม่เกี่ยวกับฮวงจุ้ย พ้นปีนี้ไปแล้วก็หมดปัญหา ไม่ต้องเสียเงินเสียทองเชิญท่านไปจัดฮวงจุ้ยถึงที่นั้นหรอก" แต่เพื่อความรอบคอบจึงได้ขอข้อมูลที่อยู่อาศัยมาพิจารณา ก็ได้บทสรุปว่าไม่เกี่ยวกับฮวงจุ้ยจริงๆ ปัญหามาจากปีจรที่เข้ามาชงฐานคู่ครองเพียงอย่างเดียวรอพ้นปีก็เป็นปกติแล้ว
จากตัวอย่างที่ยกมา ซินแสก็เหมือนกับหมอ หมอที่ดีต้องวินิจฉัยโรคให้ถูก เช่น ผู้ป่วยท่านหนึ่งมาพบหมอบอกอาการ ว่า รู้สึกปวดท้อง แน่นท้อง หมอก็สรุปอาการทั้งๆที่ยังไม่ได้ตรวจ สรุปว่าเป็นโรคท้องอืด ท้องเฟ้อ เอายาไปกินเดี๋ยวก็หาย ผู้ป่วยเอายาไปกินก็หายปวดท้องจริงๆ ผ่านไปหนึ่งปี อาการปวดท้องเริ่มกับมา และ ปวดหนักกว่าเดิม การวินิจฉัยครั้งนี้สรุปว่าเป็นมะเร็งระยะที่3(ซึ่งระยะนี้รักษาไม่หายแล้ว) ถ้าคุณหมอได้วินิจโรคอย่างละเอียดตั้งแต่ครั้งแรกโอกาสที่จะหายก็มีสูงเพราะยังอยู่ในระยะที่ 1
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ก็เปรียบเสมือนกับดวงจีนใช้วินิจฉัยสาเหตุของปัญหา ซึ่งซินแสส่วนใหญ่ละเลยในส่วนนี้ ทั้งๆที่เป็นส่วนที่สำคัญที่สุด เพราะการวินิจฉัยโรคที่ดีต้องหาสาเหตุของโรคให้เจอก่อนจ่ายยา มีแต่หมอที่ไร้จรรยาบรรณและขาดสติเท่านั้นที่จ่ายยาให้โดยอาศัยแค่การฟังจากผู้ป่วย ผู้ป่วยไม่ใช่หมอเขาจะเล่าได้แต่ความทุกข์ความเจ็บปวด หมอมีหน้าที่ค้นหาสาเหตุแห่งทุกข์และความเจ็บป่วยนั้นด้วยหลักวิชาไม่ใช่คล้อยตามอารมณ์ หรือ คำบอกเล่า เช่นนี้การสั่งจ่ายยาจึงจะไม่เสี่ยงอันตราย เพราะผู้ที่ได้รับผลแห่งความเสี่ยงนั้นก็คือผู้ป่วย
คนที่มาหาซินแสก็มาด้วยความทุกข์ หวังจะมาพึ่ง กำเงินเป็นหมืนเป็นพันมา เชื่อไม่ครับว่าซินแสบางท่านไม่แม้กระทั้งวินิจฉัยสาเหตุว่าปัญหานี้หนักหรือเบาแค่ไหน มันจะหายเองตามกาลเวลา หรือ จำเป็นต้องถึงขึ้นการปรับแก้ การปรับแก้ต้องใช้ระดับไหน และ หลังการปรับแก้เราต้องทำอย่างไร ด้วยผลประโยชน์เป็นตัวตั้งก็รีบรับงานทันที่ ไม่สนใจว่าเขาจะทุกข์ร้อนเพียงใด ตามดวงแล้วมีโอกาสสำเร็จมากน้อยแค่ไหนก็ไม่เช็ค สุดท้ายกลายเป็นการไปซ้ำเติมความทุกข์ของเขาให้เจ็บหนักมากยิ่งขึ้นไปอีก
โป้ยยี่มีแปดตัว ผู้ชำนาญจะรู้จักทั้งแปดดัว จะทะลุปรุโปรงในแปดตัวนี้อย่างถ่องแท้ ดวงจีนไม่จบเพียงแค่การหาเอ่งซิ้ง เอ่งซิ้งไม่ใช่คำตอบของทุกอย่าง คนที่คิดว่าเอ่งซิ้งคือคำตอบของทุกอย่างอาจารย์ผมสอนว่า คนที่คิดแบบนี้ก็เป็นได้แค่ กบในกะลา หาความเจริญในดวงจีนไม่ได้ เพื่อเป็นการเปิดหูเปิดตา จะขอยกตัวอย่างอีกสักนิด เช่น ดวงคนกำลังจะป่วยกำลังจะเจ็บหนัก คำถามคือเอ่งซิ้งช่วยได้มั้ย คำตอบถือไม่แน่เสมอไป เราต้องพิจารณาดูว่าในแปดตัวเม็ดไหนหละที่ทำให้เขาป่วยหนัก แล้วเม็ดไหนมาจะทำให้หายป่วย ดวงจีนมี22อักษร หากเราชำนาญจนถึงขั้นเชี่ยวชาญ เราก็จะรู้ว่าเอ่งซิ้งเป็นเพียงแค่หนึ่งในอีกหลายวิธีของการปรับดวง ดังนั้นอย่าได้กอดเอ่งซิ้งอย่างไม่ลืมหูลืม ปรัชญาของแพทย์จีนมีอยู่ประโยคนึงซึ่งผมชอบมากคือ "หมอที่ดีต้องวินิจฉัยโรคตรงจุด และ เก่งยิ่งขึ้นไปกว่านั้นคือ จัดยาได้ตรงโรค"
สุดท้ายเราผู้กำลังศึกษาอย่าได้ร้อนวิชา และ อย่าได้รีบลองของ เพราะหากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมา จะไม่มีคำว่า ผิดเป็นครู แต่ จะกลายเป็นเคราะห์กรรมที่เราต้องเป็นผู้ได้รับการชดใช้ไม่ชาติใดก็ชาติหนึ่ง คนเก่งจะสุขุมละมุนละม่อม จะรักษาคุณธรรมจรรยาไว้อย่างมั่นคงไม่หวั่นไหวไปกับผลประโยชน์ที่ฉาบฉวย เช่นนี้เขาจึงยืนหยัดอยู่ได้และฟ้าก็จะเลือกเขาเป็นผู้ที่สืบทอดวิชา.
ด้วยความเคารพ. _________________ ศิษย์ก้นกุฏิ |
|
ขึ้นไปข้างบน |
|
 |
Afengshui
เข้าร่วม: 10 Mar 2007 ตอบ: 7
|
ตอบเมื่อ: Sat Mar 10, 2007 10:27 am เรื่อง: |
|
|
ต่อไปผมจะใช้ล๊อคอินนี้ในการตอบ |
|
ขึ้นไปข้างบน |
|
 |
|